รีวิวคอนเสิร์ต NCT 127 ยืนหนึ่งเรื่องเพอร์ฟอร์มานซ์จนอิมแพ็ค 3 วันก็ยังไม่พอ
NCT 127 แม้ว่าจะไม่ใช่ครั้งแรกที่เราได้มองเห็นปรากฎการณ์บัตรคอนเสิร์ตของนักแสดง โดยเฉพาะนักแสดงต่างประเทศที่มีชื่อเสียงมาก ๆ ขายบัตรคอนเสิร์ตในอิมแพ็ค อารีน่าหมดเกลี้ยงกว่า 35,000 ใบภายในช่วงเวลาไม่กี่นาที
แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ทำเป็น และก็ NCT 127 คือหนึ่งในนั้น
จะต้องเห็นด้วยว่าเมื่อ 2-3 ปีก่อน สำหรับคนที่ไม่ได้เป็นคนชอบฟังเพลง K-POP อาจจะไม่ได้คุ้นชื่อของ NCT127 มากนัก
หรืออย่างน้อยที่สุดอาจจะเคยได้ฟังมาบ้างจากการเป็นวงบอยกรุ๊ปจากค่ายดัง SM Entertainment ค่ายเดียวกับ TVXQ!, Super Junior, Girls’ Generation, SHINee, f(x) และก็ EXO แต่สิ่งที่จำได้ก็มีเพียงแค่ชื่อวงว่า NCT และไม่เข้าใจว่ามีการแบ่งยูนิตย่อยที่อาจจะฟังดูน่าปวดหัวไปบ้างในยามที่ได้ยินครั้งแรก
แต่ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา NCT127 สั่งสมประสบการณ์และก็ผลงานมาก ๆ จนทำให้วงขยายกลุ่มแฟน ๆ ได้มากขึ้น
แม้ว่าจะมีโควิด-19 เป็นอุปสรรค แต่พวกเขาก็ยังประสบผลสำเร็จกับการผลงานต่าง ๆ ที่ออกมาโดยตลอด
และก็กลับมาทัวร์คอนเสิร์ตระดับเวิลด์ทัวร์อีกครั้ง พร้อมประกาศศักดาบัตรคอนเสิร์ตขายหมดเกลี้ยงใน 3 รอบภายในช่วงเวลาไม่กี่นาที
กับสถานที่จัดคอนเสิร์ตในร่มที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอย่างอิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี แถมสิ่งที่มีความต้องการบัตรยังมีอีกมากถึงขั้น แฮชแท็กของงานมีแต่คนตามหาบัตรกันจนถึงนาทีสุดท้าย และก็ราคาบัตรขายต่อพุ่งมากถึงหลักหมื่น
นี่เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่า หลายคนในประเทศไทยเริ่มรู้จัก NCT127 เพิ่มมากขึ้นแล้วจริง ๆ
คอนเสิร์ต NCT 127 2ND TOUR ‘NEO CITY : BANGKOK – THE LINK’ จัดขึ้นถึง 3 รอบในวันที่ 3-5 เดือนธันวาคม 2022 ที่ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี
จัดโดย SM True สมาชิก NCT127 กลับมาแสดงคอนเสิร์ตในประเทศไทยอีกครั้งจากทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรกในปี 2019 กับ NCT127 WORLD TOUR ‘NEO CITY : BANGKOK – The Origin’ ครั้งนี้
ก็เลยเป็นคอนเสิร์ตครั้งแรกในรอบ 3 ปี 6 เดือน ช่วงที่หายไปพวกเขาปล่อยอัลบั้มใหม่ออกมาถึง 3 อัลบั้ม ทั้ง NCT #127 Neo Zone, Sticker และก็ 2 Baddies ก็เลยทำให้คอนเสิร์ตนี้อัดแน่นไปด้วยเพลงกว่า 34 เพลง ในเวลา 3 ชั่วโมง
คอนเสิร์ตแบ่งได้ช่วง ๆ ช่วงเปิดตัวเรียกอะดรีนาลีนให้กับแฟนคลับด้วยเพลงสร้างชื่อของวงอย่าง “Kick It” จากอัลบั้ม NCT #127 Neo Zone ต่อด้วย “Lemonade” เพลงจากอัลบั้ม Sticker และก็ “Cherry Bomb” จากมินิอัลบั้ม NCT #127 CHERRY BOMB เต้นรัว ๆ หนัก ๆ แบบ non-stop
ก่อนจะคั่นด้วยการพูดทักแฟนคลับเป็นภาษาไทยเพื่อเข้าสู่ช่วงต่อไปที่เป็นเซ็ตเพลงสนุกสนานสบาย ๆ โยกตามง่าย ๆ อย่าง “Elevator (127F)”, “Dreamer” และก็ “Love Song” ที่สองเพลงหลังตัดมาครึ่งเพลงพอหอมปากหอมคอ
นอกจากเพลงในอัลบั้มตามเดิมแล้ว คอนเสิร์ตของ NCT127 ในครั้งนี้มีการแสดงเดี่ยวของแต่ละคนด้วย คนแรกเปิดด้วยพี่ใหญ่ของวง แทอิล (TAEIL) กับเพลง “Another World” เพลงในมินิอัลบั้มแรกของวงที่แทอิลชื่นชอบเป็นการส่วนตัว เขานำมารีมิกซ์ใหม่ในสไตล์ของเขาเอง ก่อนจะเข้าสู่อีกเพลง “Love Sign” เพลงใหม่แนวอาร์แอนด์บีชวนมองที่แทอิลรับบทบาทนักร้องและก็เป็นมือคีย์บอร์ดให้กับสมาชิกน้องเล็ก แฮชาน (HAECHAN)
ที่รับบทบาทนักร้องและก็แดนเซอร์, มาร์ค (MARK) แร็ปเปอร์ของวง มาพร้อมกับเพลงแร็ปใหม่เดือด ๆ “Vibration”, แทยง (TAEYONG) หัวหน้าวงกับเพลงกลิ่นอายร็อคสตาร์ “Moonlight”, จองอู (JUNGWOO) ที่เลือกแสดงด้านชวนมองให้แฟนคลับได้ชมกัน
กับการแสดง เต้นเดี่ยวในเพลง “Lipstick” เพลงจาก LOVEHOLIC มินิอัลบั้มเพลงภาษาญี่ปุ่น, จอห์นนี่ (JOHNNY) กับการเต้น แสดงความแข็งแรง ของกล้ามพร้อม ถอดเสื้อโชว์ซิกแพ็ค ในฉากที่จำลอง เป็นห้องอาบน้ำ ระหว่างเพลง “Focus”, แจฮยอน (JAEHYUN) มาพร้อมกับเพลงอาร์แอนด์บีช้า ๆ อย่าง “Lost”, โดยอง (DOYOUNG) หยิบเอาเพลง “Favorite” จากอัลบั้ม Favorite – The 3rd Album Repackage ที่เขาชื่นชอบมา rearrange ใหม่
เป็นแนวบัลลาดในชื่อเพลง “The Reason Why It’s Favorite” และก็ ยูตะ (YUTA) ทั้งร้องทั้งเต้นในเพลงป็อปจังหวะช้าเร่งเร็วพร้อมเสียงอิเล็กทรอนิกส์ในช่วงปลายกับ “Butterfly” เพลงใหม่ที่ยูตะเลิกเสื้อให้เห็นรอยสักผีเสื้อที่หน้าท้องด้านซ้ายของเขาด้วย
เพลงเดี่ยวของทุกคนถูกแทรกคั่นกึ่งกลางระหว่างเพลงอื่น ๆ ที่ mood & tone ใกล้เคียงกัน และก็นอกจากเพลงเดี่ยวแล้ว
ก็ยังมีเพลงแยกยูนิตอย่างยูนิตแร็ป มาร์ค แทยง กับ “The Himalayas” และก็ “Run Back 2 U + BASSBOT”
เป็นการแสดงของยูนิตเต้น จอห์นนี่ แทยง ยูตะ แจฮยอน รวมถึงเพลงของยูนิตโวคอล แทอิล โดยอง แจฮยอน จองอู และก็ แฮชาน ในเพลง “The Rainy Night”
กว่า 3 ชั่วโมงครบทุกรสทุกชาติตั้งแต่เต้นหนัก ๆ
ในเพลง “Highway to Heaven”, “Favorite (Vampire)”, “Regular”, “Love On The Floor”, “Sticker”, “Faster” และก็ “2 Baddies”
เพลงสนุกสนานอย่าง “Paradise”, “TOUCH”, “Love Me Now” ไปจนถึงเพลงโชว์พลังเสียงเน้น ๆ อย่าง “White Night” และก็ “Back 2 U” สมาชิกทั้ง 9 คนผลัดกันเต้นผลัดกันร้องกันอย่างมาก แรงดีไม่มีตก พาร์ทเต้นไม่พลาด พาร์ทร้องก็ทำได้ดีจนขนลุก
ปิดท้ายกับจดหมายถึงแฟนคลับพร้อมเพลงน่ารัก ๆ อย่าง “Dreams Come True” และก็วิ่งไปพบแฟนคลับทั่วเวทีในเพลง “Promise You” เป็นการให้คำมั่นสัญญาว่าจะกลับมาหาแฟนคลับชาวไทยอีกครั้งแน่นอน
สมาชิกแต่ละคนดึงความสามารถและก็ศักยภาพของตนเองออกมาใช้ได้อย่างดี
แม้ว่าจะจุดโฟกัสที่การแสดงเพอร์ฟอร์มานซ์สุด ๆ แต่ก็ไม่ลืมเลือนที่จะสนุกไปกับคอนเสิร์ตอยู่เสมอ ช่วงที่อินกับการแสดงก็เข้าถึงอารมณ์ ช่วงที่เอนเตอร์เทนแฟนคลับก็ยิ้มแย้มแจ่มใสวิ่งไปทั่วเวทีเป็นคอนเสิร์ตเน้นPerformanceที่เป็นมาตรฐานของการแสดงสดที่ยอดเยี่ยมทั้งร้อง เต้น เอนเตอร์เทน แม้ว่าการแสดงเดี่ยวจะสูงถึง 9 โชว์ตามจำนวนสมาชิก
ความลื่นไหลของแต่ละโชว์อาจจะมา ๆ หาย ๆ และก็การ rearrange เพลงใหม่อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีไม่มากนัก ระบบเสียงไม่ค่อยดีเท่าที่ควร เสียงเบสดังเหลือเกินในบางเพลง เสียงร้องหลายช่วงก็ได้ยินไม่ค่อยชัด รวมถึงสำหรับการแสดงรอบแรกวันที่ 3 เดือนธันวาคม มีเหตุไฟสปอตไลท์ขัดข้องจนทำให้จะต้องหยุดโชว์กลางคันตั้งแต่เพลงที่ 2 แต่ก็ยังเป็นโชว์ที่ดูสนุก ครบรส คุ้มค่า และก็สมกับที่แฟนคลับชาวไทยรอมาเนิ่นนาน
เป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของ NCT127 ว่าเป็นวงที่เด่นและก็การันตีคุณภาพของPerformanceได้อยู่ตลอด
พิสูจน์ได้จากเสียงร้องเพลงและก็เสียงกรี๊ดดังสนั่นจนหูชาของแฟนคลับตลอดทั้ง 3 วัน จนศิลปินยิ้มแก้มปริชมไม่ขาดปาก
สมาชิก NCT127 ทิ้งท้ายไว้ว่าจะกลับมาแฟนคลับชาวไทยกันอีกแน่นอน
ก็หวังว่าในคราวหลังจะได้สถานที่จัดคอนเสิร์ตที่ใหญ่กว่านี้ เพื่อแฟนคลับทุกคนได้ชมศิลปินที่พวกเขารักกันได้อย่างทั่วกัน